5301108003 นางสาวณัฐวรรณ จรัสวิกรัยกุล
5301108014 นายชายอานันท์ วงษ์จันทร์
5301108015 นางสาวอาทิมา ศรีรัตน์
5301108021 นายณัฑวุฒิ ยิ่งยืน
5301108038 นายชาญชัย เกรียงวีระยุทธ
5301108073 นายสุธิภาส ชาญชัยศิลป์
5301108076 นายปฐวี ชิดชอบ
5301108081 นายสุทธิพร โพธิพงษ์
วันจันทร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2554
วันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2554
การเปรียบเทียบการประมูลออนไลน์และeBay
การประมูล | eBay | |
บริการ | -เป็นการแข่งขันราคาอย่างเป็นปัจจุบันที่สุด สามารถเสนอราคาได้ไม่จำกัดครั้งในระยะเวลาที่กำหนด และประมูลได้ในรูปแบบที่ไม่จำเป็นต้องใช้ราคาเป็นปัจจัยหลัก แต่ไม่สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ | -ผู้ซื้อต้องการที่จะสั่งสินค้าที่ต้องการได้ และผู้ขายสามารถขายสินค้าโดยตรงผ่าน eBay ได้ทันที(ไม่ต้องประมูล) เรียกว่า เป็นการเปิดร้านค้าใน eBay โดยตรง |
การซื้อ-ขาย | -การประมูล เมื่อเกิดการซื้อ-ขาย จะเป็นธุรกรรมระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย | -eBay จะได้ค่าธรรมเนียมเมื่อเกิดการซื้อขายขึ้น |
ข้อจำกัด | -การประมูล ผู้ซื้อและผู้ขายไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิก | -eBay ผู้ขายสินค้าจะต้องเป็นสมาชิกเท่านั้น |
รูปแบบ | -การประมูลมีรูปการประมูลอยู่ 6 แบบ คือ 1.English Auctions เริ่มจากราคาต่ำ แล้วประมูลราคาสูงขึ้นทีหลัง 2.Dutch Auctions ราคาเริ่มต้นสูง และ ลดลงด้วยค่าที่กำหนดแน่นอน จนกระทั่งมีผู้ซื้อสั่งซื้อด้วยราคาล่าสุด (ผู้เสนอซื้อคนแรก เป็นผู้ชนะการประมูล) 3.Private Auctions ในระหว่างการประมูล จะไม่มีการไม่เปิดเผยข้อมูลผู้ประมูลและราคาการประมูล 4.Reserve Auctions ผู้ขายกำหนดราคาต่ำสุดที่ตั้งใจจะขายได้ (แต่ราคานี้ไม่เปิดเผยให้ผู้ซื้อทราบ) ถ้าประมูลแล้วไม่ได้ราคาในช่วงดังกล่าว ผู้ขายจะไม่ขายก็ได้ 5.Vickery Auctions มีสินค้าชิ้นเดียวที่จะขาย ผู้ประมูลทุกคนเสนอราคาโดยไม่ทราบกันและกัน ผู้ให้ราคาสูงสุดชนะ 6.Yankee Auctions ผู้ขาย เสนอขายสินค้าคล้าย ๆ กัน หลายชิ้นโดยอาจจะกำหนด หรือไม่กำหนดราคาต่ำสุด ผู้ประมูลจะประมูลด้วยราคาเท่าไรก็ได้ในช่วงเวลาที่กำหนด | -eBay เป็นแบบ Online Auction Format หรือประมูลออนไลน์ โดยมีการตั้งราคาขายขั้นต่ำเพื่อให้คนเข้ามาแข่งประมูลกัน เมื่อจบเวลาใครให้ราคาสูงสุดก็จะได้สินค้าชิ้นนั้นไป (ในบางรายการอาจจะมีการระบุราคาแบบซื้อขายได้เลยเอาไว้ด้วยเพื่อเป็นทางเลือกโดยไม่ต้องรอให้จบประมูล หรือแย่งกับคนอื่นให้เสียเวลา ทำให้สามารถตัดสินใจซื้อและจ่ายเงินให้ได้ทันที) |
การชำระเงิน | การับชำระเงินเป็นเงินสด หรือ เช็คไม่จำเป็นต้องมีบัญชี | การรับชำระเงินผู้ขายสินค้าควรมีบัญชี Pay Pal ในการชำระเงิน |
eBay
หลายๆ คนที่ผ่านร้านหนังสือ คงเคยเห็นหนังสือแนะนำการทำธุรกิจผ่านอีเบย์ หรือหารายได้จากเว็บไซต์อีเบย์มาบ้างแล้ว แล้วคุณทราบหรือไม่ว่าอีเบย์ทำอะไรได้บ้าง และทำให้เรารวยได้จริงหรื่อ !
eBay อีเบย์?คืออะไร
eBay คือเว็บไซต์ที่ให้บริการการประมูลสินค้าออนไลน์ ซึ่งรอบรับการใช้สั้งซื้อ/สั่งขายสินค้าจากทั่วโลก เพียงแค่มีคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตเท่านั้น? จุดเดนของอีเบย์ที่เห็นได้ชัด คงเป็นเรื่องของ "การประมูล" หรือ Auction? ซึ่งปัจจุบันอีเบย์เป็นเว็บที่นิยมมากที่สุดเว็บไซต์หนึ่งในโลกของการประมูลสินค้า
หลักการประมูลผ่านอีเบย์
· เริ่มต้นผู้ขายสินค้า แสดงสินค้า และกำหนดราคา/รายละเอียด เบื้องต้น?และตั้งเวลาจบในการประมูล
· ผู้ซื้อ หรือผู้สนใจ ให้ราคาที่ตนเองต้องการ แต่ต้องไม่ตำกว่าราคาประมูลที่กำหนดไว้
· ใครที่ให้ราคาสูงสุด จะได้รับสินค้านั้นไป
· อีเบย์เป็นตัวกลางในการจัดการระบบ รวมทั้งมีรายได้จากค่าธรรมเนียม
ปัจจุบัน อีเบย์มีเว็บไซต์ต่างๆ ทั่วโลกมากมาย รวมทั้งประเทศไทยด้วย http://www.ebay.co.th/ สำหรับประเทศไทยบริการนี้ ทางเว็บไซต์ sanook.com เป็นตัวแทนในการบริหารจัดการ เห็นได้จากเวลาคลิกที่ลิงค์ของอีเบย์ ebay.co.th จะถูกลิงค์ไปยังเว็บไซต์หน้าการขายสินค้าของ sanook.com
ประวัติอีเบย์โดยย่อ
ก่อตั้งเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2538 โดยนาย Pierre Omidyar? โดยชื่อเว็บเริ่มต้นคือ AuctionWeb.com และต่อมาได้เปลี่ยนเป็น eBay.com ในเดือนกันยายนเช่นกัน แต่เป็นปี 2540?
บริการของอีเบย์
นอกเหนือจากการให้บริการประมูลสินค้าผ่านหน้าเว็บไซต์ของอีเบย์ ซึ่งเป็นบริการหลักแล้ว?อีเบย์ยังมีบริการอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกหลายๆ อย่างดังนี้
· ประมูลออนไลน์ (พื้นฐานบริการของอีเบย์)
· ขายสินค้า ผู้ขายสามารถขายสินค้าโดยตรงผ่านอีเบย์ได้ทันที (ไม่ต้องประมูล) เรียกว่าเป็นการเปิดร้านค้าในอีเบย์ โดยตรงเลยทีเดียว
· เสนอซื้อสินค้า สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อสินค้า แต่หาไม่เจอ
ข้อจำกัดของการขาย/ซื้อสินค้าผ่านอีเบย์
· ผู้ขายสินค้า จะต้องเป็นสมาชิกกับอีเบย์ เท่านั้น
· สินค้าที่ขาย จะต้องเป็นสินค้าที่ไม่ต้องห้าม (ดูรายละเอียดได้จากhttp://pages.ebay.com/help/policies/items-ov.html
· ผู้ประมูล/ซื้อสินค้า จะต้องมีการลงทะเบียนเช่นเดียวกันกับผู้ขายสินค้า
· การรับชำระเงิน ผู้ขายสินค้าควรมีบัญชี PayPal เพื่อความสะดวก (ซึ่ง PayPal ก็รองรับการชำระเงินไทย
การประมูลออนไลน์ (Online Auction)
การประมูลออนไลน์ (Online Auction)
ความหมาย การประมูลออนไลน์ (Online Auction)
e-Auction หมายถึง กระบวนการประมูลซื้อขายสินค้าหรือผลิตภัณฑ์โดยการนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้เพื่อจัดการระบบการประมูลอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นการลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มขีดความสามารถในการจัดหาและจัดจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ การจัดหาพัสดุซึ่งเกิดจากการรวมความต้องการจัดซื้อพัสดุในปริมาณมาก (Demand Aggregation) ทำให้คำสั่งซื้อมีมูลค่าสูงจนสามารถจัดการประมูลได้ ราคาของสินค้า ที่ทำการประมูลประเภทนี้จะเกิดจากการเสนอราคาแข่งขันของผู้ขายในแต่ละครั้งด้วยการประมูลผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ในการทำการประมูลแบบ e-Auction นี้ ตลาดกลางฯ จะต้องเป็นผู้จัดการประมูลที่มีความรู้และประสบการณ์ทางด้านนี้มาทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมการประมูลและให้คำแนะนำในการจัดซื้อ
การประมูลออนไลน์จึงเป็นหนึ่งในเครื่องมือของการจัดซื้อจัดจ้างทาง เป็นการนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาประยุกต์ใช้ในการเจรจาต่อรอง เพื่อคัดเลือกผู้ขายและสินค้าที่มีคุณภาพ ในราคาที่เหมาะสมและดีที่สุดสำหรับผู้ซื้อ การประมูลออนไลน์สามารถดำเนินได้โดยไม่มีข้อจำกัดด้านสถานที่และเวลา ขั้นตอนการทำการประมูลออนไลน์ เริ่มจากการกำหนดคุณสมบัติสินค้า, คัดเลือกผู้ขาย, ส่ง RFI (Request for Information) / RFP (Request for Proposal) / RFQ (Request for Quotation), เลือกรูปแบบการประมูลที่เหมาะสม, จัดการประมูล, เลือกผู้ขายที่เหมาะสม, ทำธุรกรรมการซื้อขาย ข้อแตกต่างระหว่างการประมูลแบบเดิม กับ Online Auction
คุณสมบัติที่สำคัญของวัสดุครุภัณฑ์ที่จะนำมาพิจารณาในการทำ e-Auction คือ เป็นวัสดุหรือครุภัณฑ์ที่มีลักษณะเดียวกัน เช่น คอมพิวเตอร์ กระดาษ วัสดุสำนักงาน การเช่ารถยนต์ การเช่าเครื่องถ่ายเอกสาร ฯลฯ
ประเภทของการประมูลออนไลน์
- English Auctions เริ่มจากราคาต่ำ แล้วประมูลราคาสูงขึ้นทีหลัง
- Dutch Auctions ราคาเริ่มต้นสูง และ ลดลงด้วยค่าที่กำหนดแน่นอน จนกระทั่งมีผู้ซื้อสั่งซื้อด้วยราคาล่าสุด (ผู้เสนอซื้อคนแรก เป็นผู้ชนะการประมูล)
- Private Auctions ในระหว่างการประมูล จะไม่มีการไม่เปิดเผยข้อมูลผู้ประมูลและราคาการประมูล
- Reserve Auctions ผู้ขายกำหนดราคาต่ำสุดที่ตั้งใจจะขายได้ (แต่ราคานี้ไม่เปิดเผยให้ผู้ซื้อทราบ) ถ้าประมูลแล้วไม่ได้ราคาในช่วงดังกล่าว ผู้ขายจะไม่ขายก็ได้
- Vickery Auctions มีสินค้าชิ้นเดียวที่จะขาย ผู้ประมูลทุกคนเสนอราคาโดยไม่ทราบกันและกัน ผู้ให้ราคาสูงสุดชนะ
- Yankee Auctions ผู้ขาย เสนอขายสินค้าคล้าย ๆ กัน หลายชิ้นโดยอาจจะกำหนด หรือไม่กำหนดราคาต่ำสุด ผู้ประมูลจะประมูลด้วยราคาเท่าไรก็ได้ในช่วงเวลาที่กำหนด
ประโยชน์ที่จะได้รับจากการเปิดตลาดประมูลสินค้าผ่านทางอินเทอร์เน็ต
1. ได้พบกับผู้ค้าจำนวนมาก
2. มีโอกาสซื้อสินค้าได้ในราคาที่ประหยัด
3. มีโอกาสขายสิค้าได้ในราคาที่พอใจ และปริมาณมาก
4. ผู้ค้าที่มีศักยภาพทั้งรายเล็กรายใหญ่สามารถเข้ามาแข่งขันกันได้อย่างเสรี
5. ค่าใช้จ่ายในการเปิดตลาดต่ำ
6. มีความสะดวกในการเปิดตลาด สามารถทำได้เร็วและเปิดได้บ่อยครั้ง
7. สามารถเผยแพร่ภาพพจน์ของบริษัท และสินค้าได้ในวงกว้าง
ขั้นตอนการเตรียมการประมูล 6 ขั้นตอน
1. ศึกษาความเป็นไปได้ของสินค้าที่จะจัดประมูล
2. การเตรียมการประมูล
3. การคัดเลือกผู้เข้าร่วมประมูล
4. การเชิญผู้เข้าร่วมประมูลอย่างเป็นทางการ
5. การจัดประมูลจริง
6. การประกาศผู้ชนะการประมูล
ความแตกต่างของแบบดั้งเดิมและออนไลน์
การประมูลแบบดั้งเดิม | การประมูลแบบออนไลน์ |
- เสนอราคาได้เพียงครั้งเดียว (Static Pricing) | - เสนอราคาได้ไม่จำกัดครั้ง (Dynamic Pricinig) |
- โปร่งใสน้อยกว่า | - โปร่งใสทุกขั้นตอน |
- ใช้เวลายาวนานกว่า | - ใช้เวลาดำเนินการสั้น |
- ต้องเดินทางมาติดต่อกัน | - ออนไลน์ได้จากทั่วโลก |
- มีรูปแบบเดียว | - ประมูลได้หลายรูปแบบ |
- จำกัดอยู่แค่ผู้ขายรายเดิม | - เพิ่มโอกาสได้พบผู้ขายรายใหม่ ๆ |
แหล่งที่มา
พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิส์
พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
1.หลักการสำคัญของพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (The Thai Electronic Transactions Act) พ.ศ. 2540เป็นกฎหมายที่ใช้บังคับแก่ธุรกรรมที่มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศหรือ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ในการทำธุรกรรมโดยนำหลักการรับรองเอกสารอิเล็กทรอนิกส์จากกฎหมายแม่แบบว่าด้วยพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Model Law on Electronic Signatures 2001) ของคณะกรรมการกฎหมายการค้าระหว่างประเทศสหประชาชาติ (United Nations Commissions on International Trade Lew: UNCITRAL)
พระราชบัญญัติฯ นี้ประกอบด้วย 2ส่วน คือ ส่วนที่ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ และส่วนที่ว่าด้วยลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ แต่ทั้งสองส่วนนี้นำหลักการสำคัญมาบัญญัติไว้ คือ
- หลักแห่งความเท่าเทียมกันระหว่างเอกสารในรูปแบบของกระดาษและข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (Functional Equivalent Approach)
กฎหมายให้การรับรองสถานภาพทางกฎหมาย (Legal Status) แก่เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ให้มีสถานภาพทางกฎหมายเช่นเดียวกับเอกสารที่อยู่ในรูปแบบกระดาษ
- หลักความเป็นกลางทางเทคโนโลยี (Technology Neutrality)
กฎหมายบางรัฐ เช่น กฎหมายของรัฐ Utha ให้การรับรองสถานภาพทางกฎหมายเฉพาะ (Specific Approach) เทคโนโลยีการเข้ารหัสโดยระบบกุญแจคู่ (public key cryptography) เท่านั้น
2. ขอบเขตการบังคับใช้ (Scope of Applicability)
- ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยทางธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ มาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ บัญญัติว่า “รพราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับใช้กับธุรกรรมทางแพ่งและทางพาณิชย์ที่ดำเนินการในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์เล้นแต่จะได้รับการละเว้นโดยพระราชกฤษฎีกา นอกจากนี้ยังใช้บังคับแก่การดำเนินงานของรัฐด้วย”
- กฎหมายของประเทศสหรัฐอเมริกา (E-Sign Act) กฎหมายลายมือชื่อทางอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศสหรัฐอเมริกาขยายขอบเขตของการยกเว้นการใช้บังคับของกฎหมายออกไป เช่น มาตรา 103 กำหนดว่าไม่ให้นำกฎหมายว่าด้วยลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์มาใช้บังคับกับสัญญาหรือเอสารใด ๆ ที่เกี่ยวกับพินัยกรรม
3. การรับรองสถานภาพทางกฎหมายของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (Legal Status of Electronic Documents)
มาตรา 7 บัญญัติว่า “ห้ามมิให้ปฏิเสธความมีผลผูกพันและการบังคับใช้ทางกฎหมายของข้อความใดเพียงเพราะเหตุข้อความนั้นอยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์” และการพิจารณาว่าเอกสารอิเล็กทรอนิกส์จะเข้าหลักเกณฑ์ว่ามีการทำเป็นหนังสือหรือไม่นั้น ตามมาตรา 8 บัญญัติว่า “ภายใต้บังคับแห่งมาตรา 9 กฎหมายกำหนดให้การใดต้องเป็นหนังสือ หรือมีหลักฐานเป็นหนังสือ การจัดทำข้อความขึ้นเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และนำกลับมาใช้ได้โดยที่ความหมายไม่เปลี่ยนแปลงแล้ว ธุรกรรม ที่กฎหมายบังคับว่าจะต้องทำเป็นหนังสือหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือ
4. การรับฟังพยานหลักฐานอิเล็กทรอนิกส์ (Evidentiary Weight of Electronic Evidence)
มาตรา 11 บัญญัติว่า “ห้ามมิให้ปฏิเสธการรับฟังข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เป็นพยานหลักฐานในกระบวนการตามกฎหมายในคดีแพ่ง คดีอาญาหรือคดีอื่นใด เพียงเพราะว่าเป็นข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์” ในการชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานว่าข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์จเชิ่อถือได้หรือไม่นั้น ให้พิเคราะห์ถึงความหน้าเชื่อถือของลักษณะหรือวิธีของการสร้าง การเก็บรักษาหรือการสื่อสารข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ ลักษณะหรือวิธีการเก็บรักษาความครบถ้วนและการไม่เปลี่ยนแปลงของข้อมูล
6. การแสดงเจตนาในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Offer and Acceptance)
การแสดงเจตนาในรูปของข้อมูลอิเล็ทรอนิกส์ มาตรา 13 กำหนดว่า คำเสนอหรือคำสนองในการทำสัญญาอาจจะทำในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้ และห้ามมิให้มีการปฏิเสธทางกฎหมายให้การรับรองว่าคำเสนอคพสนองอาจกระทำโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ไม่ว่าจะป็นข้อความในอีเมล์ (E-mail) ข้อความทางโทรศัพท์มือถือ (SMS) ข้อความที่ติดต่อกันทาโปรแกรม MSN, Yahoo, Messageer, Camforg ไฟล์ข้อมูลที่ส่งผ่านเสียงโดยระบบ Bluetooth หรือข้อความเสียงที่มีการบันทึกไว้ทางโทรศัพท์หรอเครื่องรับฝากข้อความ (Voice Mail)
6. ข้อมูลซ้ำกัน (Double Transactions)
มาตรา 18 กำหนดว่า ผู้รับข้อมูลย่อมจะถือว่าข้อมูลที่แยกจากกันและสามารถดำเนินการไปตามข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์แต่ละชุดได้ เว้นแต่ข้อมูลทางอิล็กทรอนิกส์นั้นจะซ้ำกับข้อมลอิเล็กทรอนิกส์อีกชุดหนึ่งซึ่งผู้รับจะได้รู้อยู่แล้ว หากใชช้ความระมัดระวังตามสมควร กรณีนี้อาจเกิดขึ้นได้โดยผู้ประกอบการหรือเว็ปไซค์คิดค่าสินค้าหรอค่าบริการทางอินเตอร์เน็ต จำนวน 2 ครั้ง สำหรับการทำรายการขายสินค้าหรือบริการรายการเดียว
7. เวลาที่ถือว่ามีการส่งและรับข้อมูล (Time of Dispatching and Receing)
มาตรา 22 กำหนดว่า การส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ให้ถือว่ามีการส่งเมื่อข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้นได้เข้าสู่ระบบข้อมูลที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของผู้ส่งข้อมูล เช่น การส่งข้อความทางอิเมล์เมื่อกด Send แล้วด้านล่างขวาของหน้าจอจะปรากฏไฟสีเขียวที่แสดงว่า ข้อมูลกำลังถูกส่งไป ถ้าไฟสีเขียวยังไปไม่เต็มแท่ง แสดงว่าข้อมูลอยู่ระหว่างการส่ง ถ้าต้องการหยุด หรือยกเลิกกด Stop เพราะว่าข้อมูลยังไปไม่หมด
8. สถานที่รับและส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (Place of Sending and Receiving Electronic Messages)
มาตรา 24 บัญญัติว่า”การส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ให้ถือว่าได้ส่ง ณ ที่ทำการงานของผู้ส่งข้อมูล หรือได้รับ ณ ที่ทำการงานของผู้รับข้อมูลแล้วแต่กรณี
ในกรณีที่ผู้ส่งข้อมูลหรือผู้รับข้อมูลมีที่ทำการงานหลายแห่งให้ถือเอาที่ทำการงานเกี่ยวข้องมากที่สุดกับธุรกรรมนั้นเป็นที่ทำการงานเพื่อประโยชน์ตามวรรคหนึ่งแต่ถ้าไม่สามารถกำหนดได้ว่าธุกรรมนั้นเกี่ยวข้องกับที่ทำการงานแห่งใดมากที่สุดให้ถือเอาสำนักงานใหญ่เป็นสถานที่ที่ได้รับหรือส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้น
ในกรณีที่ไม่ปรากฏในที่ทำการงานของผู้ส่งข้อมูลหรือผู้รับข้อมูลให้ถือเอาถิ่นที่อยู่ปกติเป็นสถานที่ที่ส่งหรือได้รับข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์
ความในมาตรานี้มิให้ใช่บังคับกับการส่งและการรับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ โดยวิธีการโทรเลขและโทรพิมพ์ หรือวิธีการสื่อสารอื่นตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา”
กรณีผู้ส่งและผู้รับมีที่ทำการหลายแห่ง เช่น นายเดลและนายไมค์ทำงานให้กับบริษัทเดลล์ที่กรุงเทพฯแล้ว ก็ยังต้องไปทำงานที่จีน สิงคโปร์ อีกด้วย กฎหมายให้ถือเอาที่ทำการที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมนั้นมากที่สุดเป็นที่ทำการงาน (The Place where is closely related to the transaction)
ประวัติของสตาร์บัคส์โดยสังเขป
ประวัติของสตาร์บัคส์โดยสังเขป
สตาร์บัคส์ได้รับการยอมรับเสมอมาในฐานะผู้นำทางด้านธุรกิจกาแฟ ถ้าย้อนไปในปี 1971 ลูกค้าต้องเดินทางไกลไปถึงตลาดไพค์ เพลส (Pike Place Market) ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นร้านสตาร์บัคส์ คอฟฟี่ร้านแรก ร้านกาแฟสตาร์บัคส์แห่งแรกได้ถือกำเนิดขึ้น โดยตั้งชื่อร้านจากตัวละครในเรื่อง Moby Dick นวนิยายคลาสสิกสมัยศตวรรษที่ 19 ของอเมริกา ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับปลาวาฬ นวนิยายดังกล่าวประพันธ์โดย Herman Melvilles สตาร์บัคส์เชื่อว่า การนำชื่อสิ่งที่อยู่ไกลโพ้นทะเลมาตั้งเป็นชื่อร้านนั้นมีความเหมาะสม เพราะเปรียบเสมือนการเสาะแสวงหาเมล็ดกาแฟที่ดีที่สุดในโลกมาให้ผู้คนในเมืองซีแอตเติลได้ลิ้มลอง
มร. โฮวาร์ด ชูลท์ส ร่วมงานกับสตาร์บัคส์ในปี พ.ศ. 2525 หรือค.ศ. 1982 ในระหว่างที่เขาเดินทางไปเจรจาธุรกิจที่ประเทศอิตาลี เขารู้สึกประทับใจกับร้านเอสเพรสโซ่ที่มีชื่อเสียงในเมืองมิลานที่เขาแวะไปเยี่ยมชม ทั้งในรูปแบบและความเป็นที่นิยมของร้าน ร้านดังกล่าวเป็นแรงบันดาลใจให้เขาอยากที่จะสร้างร้านแบบนี้ในเมืองซีแอตเติล และก็เป็นไปอย่างที่เขาคาดการณ์ไว้ หลังจากความพยายามในการทดลองสูตรทั้งกาแฟ ลาเต้ และ เอสเพรสโซ่ เพียงไม่นานเมืองซีแอตเติลก็กลายเป็นเมืองแห่งกาแฟไปอย่างรวดเร็ว
ปรากฎการณ์ความนิยมสตาร์บัคส์ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน สตาร์บัคส์มีร้านกาแฟกว่า 6,000 แห่งใน 30 ประเทศทั่วโลก นอกจากกาแฟเอสเพรสโซ่รสชาติเยี่ยมแล้ว ลูกค้ายังสามารถเพลิดเพลินกับชาทาโซ่ และแฟรบปูชิโน่เครื่องดื่มปั่นสูตรพิเศษจากสตาร์บัคส์ได้อีกด้วย
สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ ประเทศไทย
ร้านสตาร์บัคส์ คอฟฟี่ได้เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อเดือนกรกฎาคม 2541 ณ. ห้างเซ็นทรัล ชิดลม โดยบริษัท คอฟฟี่ พาร์ทเนอร์ส จำกัด อันเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ จำกัด และ บริษัทเซ็นทรัลพัฒนาเป็นผู้ริเริ่มแนะนำสตาร์บัคส์ให้แก่ลูกค้าชาวไทยในเดือนกรกฎาคม 2543 บริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ จำกัด ได้เข้ามาถือสิทธิ์กิจการทั้งหมดของบริษัทคอฟฟี่ พาร์ทเนอร์ส จำกัด อันเป็นผลทำให้สตาร์บัคส์ในประเทศไทยดำเนินงานโดยบริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ ประเทศไทย จำกัด นับจากนั้นเป็นต้นมา ในเดือนมกราคม 2545 บริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ จำกัด เมืองซีแอตเติล มลรัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกาได้มอบหมายให้ Mr.Andrew Nathan มาดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการของ บริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ ประเทศไทย และในปี 2549 Mr. Felix D. Michael ได้เข้ารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการต่อจาก Mr. Andrew
ผลิตภัณฑ์ของสตาร์บัคส์ประกอบด้วยประเภทกาแฟผสมและไม่ผสมมากกว่า 30 ชนิด ประเภทเครื่องดื่มปรุงสด กาแฟ ชา ทั้งร้อนและเย็น ประเภทผลิตภัณฑ์เครื่องต้มกาแฟ Starbucks Barista ถ้วยกาแฟ ช็อกโกแลต และอื่นๆ ประเภทขนมอบ แซนด์วิช และสลัด ประเภทสื่อบันเทิง (รายละเอียด อ่านล้อมกรอบ Starbucks Entertainment) ประเภทสินค้าระดับตลาดโลก ได้แก่ เครื่องดื่ม "Starbucks Frappuccino" ในขวดแก้ว "Discoveries Coffee Drink" เฉพาะในญี่ปุ่นและไต้หวัน และอื่นๆ อีกมากมาย ประเภทบัตรสตาร์บัคส์ สามารถเติมเงินได้ ซึ่งในประเทศไทยก็มีบริการนี้แล้ว
สัญลักษณ์สตาร์บัคส์
ที่เป็นรูปนางไม้ที่สิงสถิตอยู่ตามริมแม่น้ำ หรือบางคนก็เข้าใจว่าเป็นนางเงือกที่มีสองหาง อีกทั้งชื่อ Starbucks นั้นไม่เกี่ยวข้องกับกาแฟแต่อย่างใด เป็นเพียงชื่อที่มาจากตัวละครใน นวนิยายเรื่อง Moby-Dick หรือ The Whale ของ Herman Melville ซึ่งเป็นนวนิยายเรื่องโปรดของหนึ่งในผู้ก่อตั้งดั้งเดิม
ปัจจุบันสตาร์บัคส์
เป็นร้านจำหน่ายกาแฟอันดับที่ 1 ของสหรัฐฯ มี 10,000สาขาทั้งในสหรัฐฯและในอีก 36ประเทศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนปัจจุบันคือ ฮาเวิร์ด ชูลทส์ (Howard Schultz)
กลยุทธ์4P’s ของแบรนด์
Product เหตุผล 3 ข้อแรกที่ลูกค้าเข้าร้าน
-รสชาติกาแฟ
-พนักงาน
-บรรยากาศ Third Place Wi-Fi Internet
Price
ตัวอย่างเมนูถูกสุด : Coffee of the day (Now Brewing) 60 บาท
ตัวอย่างเมนูแพงสุด : Chocolate Cream Chip Frappe-180 บาท
ราคาอินเทอร์เน็ต : Wi-Fi ชั่วโมงละ 150 บาท
Place
จำนวนสาขาที่มีปัจจุบัน : 115 สาขา
แผนการขยายสาขาในปี 2008 : เดือนละ 2 สาขา
เฟอร์นิเจอร์ : เกือบทั้งหมดจากต่างประเทศ ตั้งแต่โต๊ะ เก้าอี้ จนถึงกระดาษทิชชู
People
การเทรนพนักงาน : 3 สัปดาห์-ทดลองงานที่สาขา
ผลตอบแทนพนักงาน (รายชั่วโมง) : 43 บาท
การสร้างรอยัลตี้ให้พนักงาน : ทดสอบเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟ เป็น Coffee Master-Brand Ambassador
SWOT Analysis Starbucks
จุดเด่น
1.คุณภาพของกาแฟที่นำมาใช้เป็นผลิตภัณฑ์
2.มาตรฐานในการบริการที่ดีในการบริการแก่ลูกค้า
3.การให้ความสำคัญกับพนักงาน
4.การให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม
5.เป็นร้านกาแฟที่ติดอันดับ 84 ของโลก
6. เป็นร้านกาแฟที่มีแฟรนไชน์
7. เป็นร้านกาแฟที่ให้ความสำคัญและใส่ใจกับลูกค้า
1.คุณภาพของกาแฟที่นำมาใช้เป็นผลิตภัณฑ์
2.มาตรฐานในการบริการที่ดีในการบริการแก่ลูกค้า
3.การให้ความสำคัญกับพนักงาน
4.การให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม
5.เป็นร้านกาแฟที่ติดอันดับ 84 ของโลก
6. เป็นร้านกาแฟที่มีแฟรนไชน์
7. เป็นร้านกาแฟที่ให้ความสำคัญและใส่ใจกับลูกค้า
จุดอ่อน
1. การจัดการทางด้านการบริหารยังไม่ดีเท่าที่ควร เพราะยังมีการหาบุคคลภายนอกเข้ามาช่วยใน การบริหาร
2. Starbuck นั้นมีชื่อเสียงในเรื่องการพัฒนาและคิดค้นสินค้าใหม่
แต่อย่างไรก็แล้วแต่สินค้าของทาง starbuck นั้นก็ยังมีโอกาสที่ด้อยคุณภาพไปตามกาลเวลา
3. บริษัทนี้นั้นมีความแข็งแรงทางด้านการตลาดในประเทศอเมริกา โดยที่ 3 ใน 4 ของร้านทั้งหมดนั้นอยู่ภายในประเทศ และบ่อย
ครั้งที่มีการทกเที่ยงกันว่าพวกเค้าควรที่จะเปิดตลาดใหม่ในประเทศอื่นบ้างเพื่อลดอัตราการเสี่ยงทางเศษฐกิจ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)